นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า พายุโซนร้อนกำลังแรง "โนรู" มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย.65 ส่งผลให้ประเทศไทย บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 27-29 ก.ย.65 นั้น ได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกลและโครงการชลประทานทุกแห่ง เตรียมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยการระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ติดตั้งตามจุดพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเพิ่มเติม พร้อมให้เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้หมั่นกำจัดผักตบชวาและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเปิดทางน้ำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้ไหลได้สะดวกมากขึ้น
อาทิ จังหวัดสุโขทัย ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่การเกษตร บริเวณรอบบึงมูล ต.ดงเดือย อ.กงไกรลาศ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ บรรเทาความเดือนร้อนพี่น้องประชาชน และรองรับฝนที่อาจจะตกลงมาเพิ่มในระยะต่อไป
จังหวัดปราจีนบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 เครื่อง บริเวณสะพานต้นน้ำบางปะกง ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี เพื่อช่วยเร่งผลักดันน้ำให้ไหลได้เร็วขึ้น
จังหวัดนนทบุรี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ํา ขนาด 12 นิ้ว จํานวน 1 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ําคลองไผ่แถว ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด สามารถสูบระบายน้ําได้วันละ 23,700 ลบ.ม. และได้กำจัดวัชพืชพร้อมขุดลอกคลอง บริเวณคลองลากฆ้อน ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการระบายน้ำของคลองให้สามารถทำได้อย่างเต็มศักยภาพ
และจังหวัดปทุมธานี ติดตั้งเครื่องสูบน้ํา ขนาด 30 นิ้ว จํานวน 1 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ําเชียงรากใหม่ สามารถสูบระบายน้ำน้ําได้วันละ 158,000 ลบ.ม.
ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะใช้ระบบชลประทานในการบริหารจัดการน้ำและเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังอย่างเต็มศักยภาพ ควบคู่ไปกับการนำเครื่องจักร เครื่องมือต่าง ๆ เข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน หากหน่วยงานหรือประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 1460 ได้ตลอดเวลา