ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยและสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ในครั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์มุ่งหวังให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าของสหกรณ์ และเกษตรกรผู้ผลิต ที่มีคุณภาพ และปลอดภัย ได้มาตรฐานที่มาจากพี่น้องเกษตรกรตัวจริง ซึ่งในงานจะมีสินค้ามากมายหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อมีทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ ผักสด ผลไม้ อาทิ ทุเรียน เงาะ มังคุด ขนุน สับปะรด มะพร้าวน้ำหอม สินค้าเกษตรแปรรูป ทั้งเนื้อบด เนื้อโคขุน แหนมเนื้อ นม UHT กาแฟคั่ว ผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าคราม ผ้าหม้อห้อม และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย คัดสรรมารวมกันไว้ที่ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า กว่า 40 บูธ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสามารถมาอุดหนุนสินค้าสหกรณ์คุณภาพ ซึ่งนอกจากจะเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าและผลผลิตที่มีคุณภาพของเกษตรกรให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของประชาชนมากยิ่งขึ้นแล้ว ก็ยังเป็นการสร้างรายได้และเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าของเกษตรกรผู้ผลิตได้อีกทางหนึ่งด้วย ถือได้ว่ามางาน “GI Fresh 2 You” ที่เดียว ทุกท่านจะรับได้สินค้าดี มีคุณภาพกลับไปอย่างแน่นอน
สำหรับงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยและสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2566 ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร ภายใต้ชื่องาน "GI Fresh 2 You อัตลักษณ์ ปลอดภัย มั่นใจสินค้าเกษตร" เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับสถาบันเกษตรกร กลุ่มอาชีพในสังกัดสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรที่เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ ส่งเสริมและพัฒนารูปแบบสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมกิจกรรมมีช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยและสินค้าเกษตรอัตลักษณ์เพิ่มขึ้น นำไปสู่การสร้างการรับรู้ และได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค ส่งผลให้มีการซื้อขายที่ต่อเนื่อง สร้างรายได้ที่แน่นอนให้แก่เกษตรกร รวมทั้งเป็นการผลักดันสินค้าเกษตรปลอดภัยและสินค้าอัตลักษณ์เข้าสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทำให้เกษตรกรรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มีรายได้ที่มั่นคงและสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตได้ในระยะยาว
สินค้าที่นำมาจำหน่ายภายในงานนั้น เป็นสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ สินค้า GI จากทุกภูมิภาคของประเทศ หลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ข้าวชนิดต่าง ๆ จากทุ่งกุลาร้องไห้ ทุ่งสัมฤทธิ์ ข้าวปะกาอำปึล ข้าวเจ้าเนียงกวงจากจังหวัดสุรินทร์ ข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อนจากจังหวัดลำปาง ผักผลไม้จากภูมิภาคต่างๆ เช่น ทุเรียนภูเขาไฟจากจังหวัดศรีสะเกษ ทุเรียนหมอนทองจากจังหวัดปราจีนบุรี เงาะทุ่งช้างจากจังหวัดน่าน มังคุด 100 ปี จากชุมพร ลำไยสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลำไย จากจังหวัดลำปางและลำพูน กล้วยหอมทองจากจังหวัดเพชรบุรี มะพร้าวน้ำหอมจากจังหวัดราชบุรี และจังหวัดสมุทรสาคร ลิ้นจี่จักรพรรดิ มะม่วงแฟนซี เชอรี่แดง ฟักทองญี่ปุ่น พริกหวาน 3 สี จากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือ จำกัด รวมทั้งผักอินทรีย์จากสหกรณ์กสิกรรมไร้สารพิษในเขตปฏิรูปที่ดินอำเภอวังน้ำเขียว จำกัด เนื้อโคขุนโพนยางคำจากจังหวัดสกลนคร ผลิตภัณฑ์อาหารประมงแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปปลา เช่น อาหารทะเลแปรรูปต่างๆ อาหารทะเลพร้อมทาน จากชุมนุมสหกรณ์ประมงแห่งประเทศไทย จำกัด ปลาสลิดแดดเดียว ปลาช่อนแดดเดียว จากจังหวัดสิงห์บุรี กาแฟอาราบิก้า จากสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ ไข่ไก่คุณภาพ จากสหกรณ์ผู้เลี้ยงไข่ไก่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด จังหวัดอ่างทอง ผลิตภัณฑ์ผ้า ซึ่งเป็นอัตลักษณ์จากภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ผ้าซิ่นตีนแดง จากจังหวัดบุรีรัมย์ ผ้าหม้อฮ่อมจากจังหวัดแพร่ ผ้าย้อมครามจากจังหวัดสกลนคร ผ้าบาติกจากจังหวัดกระบี่ รวมทั้งผลิตภัณฑ์นมต่าง ๆ จากสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสหกรณ์โคนมขอนแก่น จำกัด และสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด จังหวัดสระแก้ว
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมสินค้านาทีทอง นำผลิตภัณฑ์และสินค้าของสหกรณ์มาจำหน่ายแบบลดราคา ให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน รวมทั้งโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เมื่อซื้อสินค้าครบ 300 บาท จะได้รับคูปองส่วนลด 50 บาท จำกัด วันละ 100 ใบ และร่วมตอบแบบสอบถามภายในงาน ก็จะได้รับส่วนลดอีก 50 บาท จำกัดวันละ 100 คน เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการเจรจาธุรกิจ เชื่อมโยงธุรกิจ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ได้พบปะติดต่อเจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตที่มาร่วมกิจกรรมตลอดการจัดงานนี้ด้วยเช่นกัน