
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กล่าวถึงนโยบายการแก้ไขหนี้สหกรณ์ ประกอบด้วยการหักเงินเดือนหลังชำระหนี้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ต้องมีเงินคงเหลือเพื่อการดำรงชีพไม่น้อยกว่า 30% และ ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ประสาน สหกรณ์ออมทรัพย์ที่ให้เงินกู้สวัสดิการ ร่วมมือในการดำเนินการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สวัสดิการฯ และกำหนดค่างวดเงินต้นให้เหมาะสม รวมถึงการใช้ทุนเรือนหุ้นของลูกหนี้้เพื่อทุเลาภาระหนี้เงินกู้ ตามความจำเป็น รวมทั้ง กำหนดเพดานดอกเบี้ย ไม่เกิน 4.75% โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์จะออกประกาศ แจ้งให้สหกรณ์ออมทรัพย์ ทราบเรื่องเพดาน อัตราดอกเบี้ย 4.75% รวมถึงสามารถขยายงวดได้จนถึง อายุ 75 ปี และ หากมีความจำเป็น สหกรณ์สามารถจัดเงินกู้พิเศษที่อิงเงินทุนเรือนหุ้นของสมาชิกผู้กู้ ในเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ย และการชำระค่าดอกเบี้ย ที่เท่ากับการจ่ายปันผล

สันนิบาตสหกรณ์ฯ มีพันธกิจในการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาสหกรณ์ ไปในทิศทางการพึ่งพาตนเองและร่วมมือระหว่างกัน สนับสนุนการผลิต การแปรรูป การค้าที่เป็นธรรม ขยายโอกาสการดำเนินธุรกิจสหกรณ์โดยไม่ละเลยหลักและอุดมการณ์สหกรณ์ และมีแนวทางที่จะพัฒนาสหกรณ์ยกระดับขีดความสามารถในเชิงธุรกิจ โดยเตรียมการร่วมเฉลิมฉลองปีแห่งการสหกรณ์สากลในปี 2568 รองรับให้บริการสหกรณ์ไทย/หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในการสร้างความสัมพันธ์กับสหกรณ์ในต่างประเทศ รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสหกรณ์ไทยกับต่างประเทศ สสท.กำหนดเปิด “ศูนย์ประสานงานความร่วมมือระหว่างสหกรณ์ไทยกับต่างประเทศ” ขึ้น ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ในวัน วันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2567
ทั้งนี้ ในการประชุมใหญ่ฯ จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการฯ ประเภทสหกรณ์บริการ ผลการเลือกตั้ง ได้แก่ นายจันทร์ หวนสันเทียะ และเลือกตั้งผู้ตรวจสอบกิจการ ผลการเลือกตั้ง ประกอบด้วย 1. นายจำเริญ พรหมมาศ 2.นางสาวชนันท์พลอย เจริญโชติวรกุล 3นายอุทัย ศรีเทพ