ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนทุกภาคส่วนเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น กระทรวงยุติธรรมจึงได้จัดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ขึ้น โดยมอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและกรมบังคับคดีผนึกความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินว่า 23 แห่ง ประกอบด้วย กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) บรรษัทประกันสินชื่ออุตสาหกรรมขาดย่อม ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารทหารไทยธนชาติ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ บริษัท กรุงศรีคอนซูเมอร์ จำกัด ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) บริษัทเจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ตะวันออกพาณิชย์ลีชซิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท อีซี่บาย จำกัด (มหาชน) บริษัทบริหารทรัพย์สิน กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) บริษัทจำกัดบริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท (SAM) บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งก่อนฟ้อง และหลังศาลพิพากษาด้วยการไกล่เกลี่ยตามที่มีกฎหมายของหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบ เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้เพื่อการศึกษา ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต เช่าซื้อ ลิสซิ่ง ที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์จะถูกฟ้องดำเนินคดี หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา ได้รู้สิทธิตามกฎหมาย เข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผนและสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชนเป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนและให้ประชาชนที่มีหนี้สินสามารถฟื้นฟูและกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้เร็ว รวมทั้งลดปัญหาความขัดแย้ง หรือข้อพิพาท เพื่อให้เป้าหมายการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของรัฐบาล ที่จะลดหนี้ภาพรวมให้ลดลงอยู่ในระดับที่ยั่งยืนหรือต่ำกว่า 80% ต่อจีดีพีประสบความสำเร็จ ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศและสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยต่อไป
โดยการเปิดเวทีในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ก่อนฟ้อง/หลังคำพิพากษา และสถาบันการเงิน กยศ. ในเบื้องต้นมี ชั้นก่อนฟ้องคดี จำนวนกว่า 260,000 ราย ทุนทรัพย์กว่า 59,000 ล้านบาท ชั้นหลังคำพิพากษา จำนวนกว่า 172,000 ราย ทุนทรัพย์กว่า 49,000 ล้านบาท ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและ กรมบังคับคดี จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ทั้ง 76 จังหวัด โดยสามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ประชาชนไปแล้ว โดยในชั้นก่อนฟ้องคดีช่วยเหลือลูกหนี้ไม่ให้ถูกฟ้องคดีต่อศาลจำนวน 44,735 ราย ทุนทรัพย์ จำนวน 5,810.5 ล้านบาทและในชั้นหลังศาลมีคำพิพากษา ช่วยเหลือลูกหนี้ไม่ให้ถูกยึดทรัพย์และอายัตทรัพย์ จำนวน 25,632 ราย ทุนทรัพย์ จำนวน 331.8 ล้านบาท
“ในปี 2567 นี้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและกรมบังคับคดี ยังคงเดินหน้า แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับ สถาบันการศึกษา กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินกว่า 23 แห่ง จัดงาน มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้เพื่อการศึกษา ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต ที่ผิดนัดชำระหนี้ เข้าเกณฑ์จะถูกฟ้องดำเนินคดี หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา ได้รู้สิทธิตามกฎหมาย และเข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน เพื่อเป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน”พันตำรวจเอก ทวี กล่าวย้ำ
สำหรับแผนการจัด “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และสถาบันการเงินร่วมมือกันจัดงาน โดยกำหนดมหกรรมครั้งที่1 ในระหว่างวันที่ 27-28 มกราคม 2567 ณ หอประชุมรักตะกนิษฐ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต สำหรับในส่วนภูมิภาค กำหนดการจัดมหกรรมทุกจังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าจะดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567
ขอเชิญชวน ประชาชนที่มีคดีก่อนฟ้อง และหลังศาลมีคำพิพากษา ที่เป็นลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หนี้บัตรเครดิต และหนี้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ร่วมงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2567 โดยประชาชนมีความสนใจและประสงค์จะเข้าร่วมงานมหกรรมสามารถติดต่อผ่านช่องเว็บไซต์กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ โดยลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ตามลิงค์ https://uat.led.go.th/qcard/schedule/2567/10.aspหรือสอบถามผ่าน สายด่วนยุติธรรม โทร 1111 กด 77 และสายด่วนกรมบังคับคดี โทร 1111 กด 79 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือ โทร 02-1412773, 02-1412767 และ 081-7639156 





