อาเซียนเห็นชอบข้อเสนอไทยจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญด้านใบรับรองสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ (e-SPS) เพื่อเสริมประสิทธิภาพการเชื่อมโยงการค้าและเทคโนโลยีดิจิทัล รองรับความเปลี่ยนแปลงตามกรอบความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA) ฉบับใหม่
นายชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า มกอช. มอบหมายให้ผู้แทนกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร ทำหน้าที่หัวหน้าคณะฝ่ายไทย เข้าร่วมการประชุมผู้ประสานงานด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (ASCP) ครั้งที่ 13 และการประชุมคณะทำงานด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (AC-SPS) ครั้งที่ 15 ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีเมียนมาเป็นเจ้าภาพ พร้อมผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ และติมอร์-เลสเต เข้าร่วม
ที่ประชุมเห็นชอบต่อข้อเสนอของไทยในการจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญด้าน e-SPS ภายใต้กรอบ ASCP ซึ่งจะเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้าน SPS และเทคโนโลยีดิจิทัลของอาเซียน เพื่อขับเคลื่อนระบบใบรับรองสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์อย่างมีประสิทธิภาพ สอดรับกับทิศทางการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการค้าภายในภูมิภาค ตามกรอบความตกลง ATIGA ฉบับใหม่ ซึ่งขณะนี้มี 9 ประเทศให้การรับรองแล้ว และอีก 1 ประเทศอยู่ระหว่างพิจารณา โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เสนอร่างขอบเขตงาน (TOR) ของคณะผู้เชี่ยวชาญ e-SPS เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐมนตรีเกษตรและป่าไม้อาเซียนในเดือนตุลาคม 2568
นอกจากนี้ ไทยยังแสดงบทบาทนำด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในระบบความปลอดภัยอาหาร โดยนำเสนอความคืบหน้าโครงการระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยอาหารของอาเซียน (ARASFF) และเว็บไซต์เครือข่ายความปลอดภัยอาหารอาเซียน (AFSN) ซึ่งปัจจุบัน มกอช. เป็นผู้ดูแลระบบ พร้อมเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกใช้งานอย่างต่อเนื่อง และร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบทั้งสอง
ในการประชุมครั้งนี้ มกอช. ยังได้แจ้งถึงการประกาศใช้มาตรฐาน มกษ. 9070-2566 เรื่อง "หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ" ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 โดยได้แจ้งประเทศสมาชิกอาเซียนและองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ทั้งนี้ การประชุม ASCP ดำเนินการภายใต้กรอบความร่วมมือของรัฐมนตรีเกษตรและป่าไม้อาเซียน มุ่งเน้นการติดตามและผลักดันการดำเนินงานด้านมาตรการ SPS ระหว่างประเทศสมาชิก ส่วนการประชุม AC-SPS อยู่ภายใต้กรอบรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน มุ่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางเทคนิคที่เกิดจากมาตรการด้าน SPS เพื่อส่งเสริมการค้าในภูมิภาคอย่างยั่งยืน” เลขาธิการ มกอช. กล่าว