กรุงเทพฯ – โครงการ "เล่นเล่าสร้างเรื่อง" ได้จัดพิธีปิดโครงการอย่างเป็นทางการ สำหรับรุ่นที่ 2 ซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างนักคิดและนักเล่าเรื่องรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพกว่า 60 คนทั่วประเทศ พร้อมประกาศผลผู้ชนะการประกวดเขียนบทจากประเด็น "เรื่องเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจฉัน" ที่เน้นย้ำถึงการสร้างสรรค์สื่อจากความจริงและประสบการณ์ชีวิตโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้รับผิดชอบโครงการต่างเน้นย้ำว่า โครงการนี้เป็นมากกว่าแค่การอบรม แต่คือการสร้างพื้นที่สำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต และการสร้างเครือข่ายอันทรงพลังเพื่อขับเคลื่อนคอนเทนต์ไทยในอนาคต
เล่นเล่าสร้างเรื่อง: พื้นที่บ่มเพาะไอเดีย สร้างมิติการเล่าเรื่อง
คุณเทินพันธ์ แพนสมบัติ ผู้เชี่ยวชาญกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวถึงความสำคัญของโครงการว่า "เล่นเล่าสร้างเรื่องไม่ใช่เป็นเพียงแค่โครงการที่จัดอบรมแล้วจบไป แต่เป็นรูปแบบของการทำกิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสและเปิดช่องทางให้เกิดพื้นที่ปฏิสัมพันธ์ในการใช้ไอเดียสร้างสรรค์ร่วมกัน"
คุณเทินพันธ์ย้ำว่า หัวใจสำคัญของการเล่าเรื่องที่สามารถ "ทัชใจคน" และ "สั่นสะเทือนความรู้สึก" ได้นั้น ต้องมาจากประสบการณ์ชีวิตที่สัมผัสโดยตรง โครงการนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ผู้เข้าร่วมได้มา "ค้นหาประสบการณ์ชีวิตร่วมกัน" ทั้งของตนเองและจากการเรียนรู้ประสบการณ์ของผู้อื่น สิ่งที่เยาวชนได้รับจากการเข้าค่ายคือการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและโอกาสในการแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน
"สิ่งเหล่านี้คือการส่งต่อที่มีคุณค่าและมีมูลค่าประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้ เพราะต่อให้มีเงินหลักล้านก็ไม่สามารถจ้างนักเขียนบทระดับตำนานมาสอน หรือซื้อองค์ความรู้ที่เป็นเหมือนอิฐก้อนแรกเหล่านี้ได้...โครงการนี้จึงมีมิติที่ลึกซึ้งในการสร้างเรื่องเล่า และที่สำคัญคือการสร้างเครือข่าย สร้างเพื่อนร่วมทาง สร้างเน็ตเวิร์ค สร้างประสบการณ์ร่วมกัน" คุณเทินพันธ์ กล่าวเพิ่มเติม
พลังแห่งละครเวที: เจาะลึกความจริงในหัวใจ
คุณสนธยา สุชฎา ประธานหลักสูตรเล่นเล่าสร้างเรื่อง เปิดเผยว่า โครงการนี้ได้ใช้ "กระบวนการละครเวที" เป็นหัวใจหลักในการเรียนรู้ ซึ่งแตกต่างจากการสอนสร้างสื่อแบบทั่วไป "กระบวนการนี้ทำให้เยาวชนรู้จักตัวเองและเข้าใจการสร้างเรื่องที่อยู่ในใจได้มากกว่าการเรียนรู้อื่นๆ"
คุณสนธยา ยังระบุด้วยว่าหลักสูตรปีนี้เน้นที่ "เรื่องจริง" โดยผู้เข้าร่วมเขียนใบสมัครในหัวข้อ "เรื่องเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจฉัน" ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์คลิปสั้นที่สะท้อนความจริงในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัก ดราม่า หรือความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยมีผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากเยาวชนที่ตื่นเต้นกับรูปแบบการเรียนรู้ใหม่นี้
เป้าหมายอนาคต: ต่อยอดเครือข่ายและขยายผลสู่ภูมิภาค
ประธานหลักสูตรฯ ได้เน้นย้ำถึงแนวทางในอนาคต 2 ระดับ คือ: สร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง: ต้องการต่อยอดความสัมพันธ์ของผู้เข้าร่วมค่าย โดยนำไปร่วมฝึกงานและพัฒนาต่อไป เพราะความสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่ที่มีพลังแข็งแรงคือรากฐานสำคัญ และขยายโครงการสู่ระดับภูมิภาค: เนื่องจากมีเยาวชนที่มีศักยภาพจำนวนมาก โครงการจึงตั้งเป้าที่จะลงพื้นที่เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ใช้ความสามารถและองค์ความรู้ และพร้อมรับโจทย์จากกองทุนสื่อฯ เพื่อผลิตคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อไป
เสียงสะท้อนจากคนรุ่นใหม่: ประสบการณ์ที่ "คุ้มค่ามาก"
นางสาวโสภิตา เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากผลงาน "จากคนตายสู่คนเป็น" กล่าวว่า "ประทับใจโครงการนี้มาก เป็นโครงการที่ดีมากๆ ไม่เคยเข้าโครงการไหน แล้วประทับใจเท่าโครงการนี้ ...ได้รับสังคมดีๆ และเรื่องราวดีๆ ทำให้มีไฟอยากส่งต่อผลงานของตัวเองให้คนอื่นมีแรงบันดาลใจ ได้มีความหมายในการใช้ชีวิตมากขึ้น รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ดังนั้นขอรับรองได้เลยว่าโครงการนี้เป็นประสบการณ์ที่ถ้าไม่มา ก็น่าจะเสียใจไปตลอดชีวิต
นางสาวสุชาวลี เขียวอัมพร ผู้พิการทางสายตา และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง จากผลงาน "ภาพฝันในวันวาน" กล่าวว่า โครงการนี้ "เปิดกว้างมาก" และทีมงานให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ "ตอนนี้มีความมั่นใจในการเขียนมากขึ้น และตั้งใจกลับไปเขียนนิยายของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ และก้าวเข้าสู่วงการนี้มากขึ้น ที่สำคัญ คือการทำนิยายให้เป็นซีรีส์ เพื่อให้คุณยายที่อ่านหนังสือไม่ออก ได้ดูละครจากเรื่องที่ตัวเองเขียน การมาเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากๆ
นายนัฐนนท์ อัคคะวรรณ ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง จากผลงาน “Last Short Film” บอกว่า การมาร่วมโครงการในครั้งนี้ทำให้ได้ประสบการณ์เพิ่ม และนำประสบการณ์ไปทำผลงานของตัวเอง อยากเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจมาร่วมโครงการนี้
โครงการ "เล่นเล่าสร้างเรื่อง" จึงไม่ใช่เพียงแค่เวทีการเรียนรู้ แต่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างชุมชนนักเล่าเรื่อง ที่พร้อมจับมือกันใช้พลังของการเล่าเรื่องที่ดี สร้างสรรค์คอนเทนท์ที่ทรงพลังและมีอานุภาพต่ออนาคตของประเทศไทยต่อไป
