Newstimestory

สวทช. ผนึก วช. เปิด 2 เวทีเฟ้นหาเยาวชนคนเก่งโครงงานวิทย์ - เขียนโปรแกรม

 

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือในการเปิดเวที การประกวดผลงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1” หรือ NSTIF 2021 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 ณ โถงอาคาร สวทช. (โยธี) ถ.พระรามที่ 6 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันครั้งแรกของทั้งสองหน่วยงาน ที่ร่วมเปิดเวทีการประกวดเยาวชนคนเก่ง โดยภายในงานยังมีตัวแทนอดีตเยาวชนที่เคยผ่านการแข่งขันทั้งสองเวทีมาร่วมงาน ได้แก่ รศ.ดร.ทวีธรรม ลิมปานุภาพ หัวหน้าสาขาวิชาเคมีจากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ประจำปี 2563 และนายณัฎฐ์ ปิยะปราโมทย์ วิศวกรซอฟแวร์อาวุโส บริษัท อโกด้า เซอร์วิสเซส จำกัด เพื่อมาถ่ายทอดประสบการณ์ที่เคยผ่านการประกวดโครงการ YSC และ NSC

              สำหรับการประกวดผลงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ประกอบด้วยโครงการการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ (Young Scientist Competition : YSC) และโครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย (The National Software Contest : NSC) ซึ่งทั้งสองโครงการมีการแข่งขันในรอบตัดสินเมื่อวันที่ 4 - 5 มีนาคม 2564 และจะประกาศผลรางวัลในวันที่ 19 มีนาคม 2564  

โครงการการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ หรือ YSC เป็นโครงการเพื่อกระตุ้นและสนับสนุนเยาวชนในระดับมัธยมศึกษาให้มีโอกาสแสดงความสามารถและทักษะที่เป็นนวัตกรรม และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับประเทศ และคัดเลือกผู้ชิงชนะเลิศและคัดเลือกตัวแทนประเทศไทยสำหรับเข้าประกวดในงาน Intel International Science and Engineering Fair : Intel ISEF ที่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Regeneron ISEF เมื่อปี พ.ศ. 2563 ซึ่งการประกวดดังกล่าวจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 โดย Society for Science & the Public

       ส่วนโครงการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย หรือ NSC จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือซอฟท์แวร์สำหรับเยาวชนทั่วประเทศ รวมทั้งพัฒนาทักษะ ความคิดริเริ่มในการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านซอฟท์แวร์ของประเทศ ซึ่งผู้ชนะเลิศในประเภทนักเรียน นิสิตและนักศึกษา จะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และถือเป็นเวทีประกวดซอฟท์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล

       ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า นอกเหนือจาก สวทช.จะมีภารกิจสำคัญในการวิจัยและพัฒนาแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนที่มีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย และ สวทช. เข้าสู่ปีที่ 30 ในปี พ.ศ. 2564 นี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมการประกวดที่สำคัญหลายกิจกรรม สำหรับผลงานโครงงานทั้งหมดของเยาวชนในโครงการ YSC มีทั้งสิ้น 12,026 โครงงาน และได้ส่งเข้าประกวดในเวที Intel ISEF จำนวน 79 โครงงานและได้รับรางวัลจากเวทีดังกล่าว 22 รางวัล และยังได้ส่งผลงานจากโครงการ YSC เข้าประกวดในเวทีประกวดระดับนานาชาติอื่นๆ รวม 99 ผลงานและได้รับรางวัลรวม 44 รางวัล เช่น I-SWEEP ที่ได้ส่งผลงาน 7 โครงงาน และได้รับรางวัล 8 รางวัล, Genius Olympiad ที่ได้ส่งผลงาน 1 โครงงานและได้รับ 1 รางวัล ขณะที่โครงการ NSC สามารถผลิตและสร้างนักเขียนโปรแกรมที่มีทักษะความสามารถสูงให้แก่วงการอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์จำนวนไม่น้อย

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง

ด้าน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. เผยว่า วช. ได้ให้ทุนสนับสนุนแก่เยาวชนผ่านเครือข่ายศูนย์ประสานงานภูมิภาค YSC ได้แก่ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และมหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อพัฒนาผลงานเข้าประกวดในโครงการ YSC และให้ทุนสนับสนุนแก่เยาวชนผ่านเครือข่ายมหาวิทยาลัยภูมิภาค 6 แห่ง ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำนักงานอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ เพื่อพัฒนาผลงานสำหรับแข่งขันในโครงการ NSC อีกทั้งสนับสนุนทุนแก่ สวทช. ในการจัดการประกวดผลงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติครั้งนี้ นับเป็นเวทีที่จะสร้างและพัฒนาเยาวชนให้มีความพร้อมในการเป็นนักประดิษฐ์ที่มีคุณภาพ และศักยภาพ เพื่อเติบโตเป็นนวัตกรที่สำคัญของประเทศต่อไปในอนาคต



ใหม่กว่า เก่ากว่า